แม้เกมพรีเมียร์ลีก นัดผ่าเมือง แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ศึกแห่งศักดิ์ศรีของ 2 ทีมยักษ์ใหญ่จากเมือง แมนเชสเตอร์ จะจบไปแล้ว และผู้ที่กำชัยชนะไปได้ในศึกครั้งนี้ก็คือ ทีมเจ้าบ้าน อย่างสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เปิดสนาม เอทิฮัด สเตเดี้ยม ฟาดเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างไม่ไว้หน้าเจ้าของสถิติแชมป์ พรีเมียร์ลีก 13 สมัย ด้วยสกอร์ 4-1 ทำให้ทีมดังจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตกที่นั่งลำบากอีกครั้ง เนื่องจากหลุดจากอันดับ TOP 4 ลงไปอยู่อันดับที่ 5 และอาจจะพบกับฝันร้าย ที่อาจจะต้องชวดโควต้าไปแข่ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าอีกด้วย
โดยทางฝั่งของทีมเจ้าบ้านอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงก่อนเกมเริ่ม ก็ได้รับความกดดันอย่างหนักเช่นเดียวกัน เนื่องจากจะต้องเล่นเกมในรายการนี้อย่างถนอมร่างกาย เพื่อไล่ล่าบัลลังก์แชมป์ และ ครองตำแหน่งแชมป์เอาไว้ให้ได้จนจบฤดูกาลนี้ ความกดดันที่ทาง ทัพเรือใบสีฟ้า ต้องเจอในนัดที่ผ่านมานี้ก็คือ ทีมรองอย่าง ลิเวอร์พูล กำลังทำคะแนนตีตื้นมาอย่างติดๆ โดยที่เกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทัพหงส์แดง สามารถเอาชนะ ทัพขุนค้อน 1-0 กวาด 3 คะแนนเต็มมาได้สำเร็จ จนทำให้คะแนนของพวกเราไล่บี้ ทัพเรือใบสีฟ้า แบบชิดติดขอบ โดยห่างเพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น เพราะใน 5 เกมนัดหลังสุดนี้ ทัพเรือใบสีฟ้า ฟอร์มการเล่นแผ่ว สามารถโกยคะแนนมาได้เพียงแค่ 10 แต้มเท่านั้น ในขณะที่ ทัพหงส์แดง ฟอร์มระเบิดเป็นพลุแตก สามารถโกยคะแนนมาได้ถึง 15 แต้มเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเกมนี้ ทัพเรือใบสีฟ้า ไม่สามารถคว้าชัยชนะมาได้ บัลลังก์แชมป์ พรีเมียร์ลีก ก็อาจจะสั่นคลอนได้เช่นกัน
และในเกมที่ผ่านมานี้ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า กุนซือจากแดนกระทิงดุ ยังต้องวางแผนการเล่นอย่างรัดกุมมากๆ เนื่องจากนักเตะตัวหลักไม่สามารถลงสนามได้หลายราย คือ รูเบน ดิอาส , นาธาน อาเก้ และ โคล พาล์มเมอร์ ได้รับบาดเจ็บจากในเกมก่อนหน้า โดยทางด้านของ รูเบน ดิอาส นั้นจะต้องทำการพักรักษาตัวนานกว่า 1 เดือนด้วยกัน นอกจากนี้ในส่วนของ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ก็โดนพักงานจากต้นสังกัดแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากเขามีข่าวฉาวที่เป็นคดีความในเรื่องของการล้วงละเมิดทางเพศอยู่เช่นกัน แต่ในท้ายที่สุด ทีมเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ประสบความสำเร็จไปในเกมนี้ และลอยลำเป็นจ่าฝูงต่อไป ปล่อยให้เพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับความพ่ายแพ้ และต้องเผชิญกับประเด็นดราม่าร้อนๆภายในทีมอีกด้วย
ประเด็นดราม่าภายในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนเกม ดาร์บี้ แมตช์ เริ่ม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพบเจอกับประเด็นดราม่าก่อนศึก พรีเมียร์ลีก นัดผ่าเมือง จะเริ่มขึ้น โดยที่สื่อดังประจำท้องถิ่น แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ ได้รายงาน ก่อนเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ จะเริ่มขึ้นว่า แข้งซุปเปอร์สตาร์ดาวยิงของ ทัพปีศาจแดง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั้น ไม่ได้เข้ามาเช็คอินยังโรงแรมที่พักกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ตามธรรมเนียมปฏิบัติก่อนเกมเริ่มของสโมสรตามปกติ ต่อมาทางด้าน ดิ แอธเลติก สื่อดังของประเทศอังกฤษ ได้รายงานต่อว่า แข้งคนดังหมายเลข 7 จะไม่สามารถลงสนามได้ในเกมนัดนี้ เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพก พร้อมกันกับแข้งความหวังประสบการณ์สูงของทีมอย่าง เอดิสัน คาวานี่ ก็ยังคงไม่ได้ลงสนามในนัดนี้ เนื่องจากความฟิตของเขายังคงไม่เต็มที่ 100 % แม้จะกลับมาลงสนามซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ แล้วก็ตาม
แต่เมื่อข่าวได้แพร่ออกไปดังนี้ กระแสของแฟนบอลบางส่วนกลับไม่เชื่อคำกล่าวที่ว่า แข้งซุปตาร์คนดังนั้นได้รับบาดเจ็บที่สะโพกจริงๆ เนื่องจากการแข่งขันในนัดที่ผ่านมานี้ เป็นนัดที่สำคัญ และที่ผ่านมาเขาก็มีความฟิตมาก แม้จะมีการบาดเจ็บเล็กน้อยบ้างก็ตาม อีกทั้งสื่อจากหลากหลายสำนักก็ได้รายงานเพิ่มเติมในภายหลังว่า ความจริงแล้วที่ โรนัลโด้ ไม่มีรายชื่อเป็นตัวจริงของเกมนัดที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บ กุนซือชั่วคราว ราล์ฟ รังนิก ได้แจ้งกับแข้งคนดังว่า เขาจะไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง โดย ซี ชานคลาฟ นักข่าวฟุตบอลจากสำนักข่าวหนึ่ง ได้รายงานว่า
“ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่ ราล์ฟ รังนิก ได้แจ้งกับเขาว่า ในเกมนี้ เขาจะไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ด้วยเหตุผลทางด้านแทคติก ทำให้ โรนัลโด้ เกิดความไม่พอใจ และขอไม่มีชื่อในทีมสำหรับการแข่งขันนัดนั้นทันที ”
ในขณะที่ชาวทวิตเตอร์ อย่างผู้ใช้ที่ใช้ชื่อว่า cr7.o_lendario ได้ทวิตข้อความคล้ายๆกันกับสื่อสำนักดังรายงาน ซึ่งในภายหลัง คาเทีย อเวยโร่ น้องสาวแท้ๆของ โรนัลโด้ ก็ได้มากดไลค์ให้กับข้อความของเขาด้วย โดยเขาเขียนว่า
“ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาไม่ได้บาดเจ็บหรือป่วย เขาฟิตเต็มที่ 100 % สวัสดีตอนเช้าถึงพวกคุณทุกคนที่เศร้าและโกรธเช่นเดียวกันกับผม เพราะ รังนิก ได้ทำลายเช้าวันอาทิตย์ของเราด้วยการตัด CR7 ออกจากเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมสุดคลาสสิคนี้ ด้วยเหตุผลทางแทคติก ”
ซึ่งในประเด็นเรื่อง โรนัลโด้ บาดเจ็บจนไม่สามารถลงสนามได้นั้น ทางด้าน รอย คีน กัปตันในตำนานของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เขาไม่เชื่อว่า แข้งหัวหอกคนสำคัญของทีม จะมีปัญหาบาดเจ็บ จนถึงขั้นไม่สามารถลงสนามในนัดที่สำคัญเช่นนี้ได้จริงๆ โดยตำนานของ ทัพปีศาจแดง วัย 50 ปี ได้แสดงความคิดเห็น ในรายการวิเคราะห์เกมการแข่งขันของ สกาย สปอร์ต สื่อชื่อดังของเกาะอังกฤษว่า
“ ผมไม่ค่อยพอใจนัก กับคำกล่าวอ้างของผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า โรนัลโด้ มีปัญหาที่กล้ามเนื้อบริเวณสะโพก เรามักจะเคยได้ยินกันว่า โรนัลโด้ นั้นเปรียบเสมือนเครื่องจักร เขาแทบจะไม่เคยมีปัญหาบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ ”
ซึ่งในภายหลังที่ รอย คีน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ รวมถึงการที่น้องสาวแท้ๆของ โรนัลโด้ ได้ออกมาแสดงความเคลื่อนไหว เห็นด้วยกับประเด็นที่ว่า โรนัลโด้ ไม่ได้บาดเจ็บจริงๆ แต่ รังนิก กุนซือของ ทัพปีศาจแดง ไม่ให้เขาลงสนามเป็นตัวจริง จนเจ้าตัวขอไม่มีรายชื่อในเกมนั้น ทางด้าน รังนิก กุนซือชั่วคราวของทีมก็ได้ออกมาโต้ข่าวทันควันว่า กองหน้าจากเมืองฝอยทอง นั้น บาดเจ็บจริงๆ โดยเขา กล่าวว่า
“ ผมได้รับรายงานจากทีมแพทย์เมื่อวันศุกร์ว่า โรนัลโด้ ไม่สามารถลงสนามซ้อมได้ เพราะ เขามีปัญหาที่บริเวณสะโพก และในวันเสาร์ เขาก็ยังไม่สามารถลงสนามซ้อมได้อีกเช่นเดิม ด้วยเหตุนี้แหละ ที่เขาไม่มีรายชื่ออยู่ใน และจะให้ผมทำอะไรได้อีก หากนักเตะได้พบกับแพทย์ และแพทย์ก็ยืนยันว่าเขาบาดเจ็บ ลงเล่นไม่ได้ ผมในฐานะผู้จัดการทีมก็ต้องยอมรับในคำวินิจฉัยของแพทย์สิ ผมเองก็ไม่สามารถที่จะบังคับนักเตะให้ลงสนามได้ หากเขาไม่พร้อม ในส่วนของ คาวานี่ ก็เช่นกัน เขาลงซ้อมมาตลอด 3 วัน ซึ่งมันก็เป็นสัญญาณที่ดี แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกว่า เขายังไม่ฟิตพอที่จะลงแข่งขันได้ นี่คือข้อเท็จจริงทั้งหมด ผู้จัดการทีมอย่างผม บังคับให้นักเตะลงสนามแข่งไม่ได้ หากเขาไม่พร้อมจริงๆ ”
ประเด็นดราม่าภายในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจบเกม ดาร์บี้ แมตช์
ภายหลังที่เกมแห่งศักดิ์ศรีระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบลงไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ทีมเจ้าบ้าน ทัพเรือใบสีฟ้า จะสามารถเอาชนะ ทีมเยือน ทัพปีศาจแดง ไปได้ในเกมนี้ ซึ่งก็ตรงตามที่หลายฝ่ายคาดเดาและวิเคราะห์ เพราะ เจ้าบ้านปิดสกอร์อย่างขาดลอยไปได้ 4-1 ทำให้พวกเขารอดพ้นจากความกดดันที่โดน ทัพหงส์แดง ไล่จี้ตามหลังมาติดๆอีกแค่เพียง 3 คะแนน เป็น 6 คะแนน คงสถานะจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่นต่อไป ในขณะที่ ทัพปีศาจแดง ต้องปาดน้ำตากลับบ้าน ไม่เพียงเพราะ พ่ายแพ้ในศึกแห่งศักดิ์ศรีนี้เท่านั้น แต่เพราะ ในขณะนี้ พวกเขาโดนเบียดร่วงจากอันดับที่ 4 ไปอีกครั้งโดย ทัพปืนใหญ่ ซึ่งจากการลงเล่น 28 นัด ทัพปีศาจแดง เก็บคะแนนไปได้ 47 คะแนน ตามหลัง ทัพปืนใหญ่ ซึ่งเก็บได้ 48 คะแนน แต่ลงเล่นเพียงแค่ 25 นัดเท่านั้น ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเจอกับดราม่าภายในทีมอีกระลอก จากการโดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากคนภายนอก รวมไปถึงอดีตนักเตะรุ่นพี่ในตำนานหลายคน
โดยทางด้าน อดีตแข้งกองกลางรุ่นพี่ในตำนานของ ทัพปีศาจแดง รอย คีน ก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขารับไม่ได้กับฟอร์มการแข่งขันของ แข้งรุ่นน้อง โดยเขาวิจารณ์ฟอร์มในเกมของรุ่นน้องอย่างหนักว่า พวกเขาเล่นกันแบบยอมแพ้ ยกธงขาวให้คู่ต่อสู้ แทนที่จะเล่นแบบสู้ยิบตาจนจบเกม ซึ่งเขากล่าวอย่างหัวเสียว่า
“ พวกคุณคิดดูว่าเขาเล่นแบบยอมแพ้ใน เกมดาร์บี้ สำหรับในเกมแบบนี้มันให้อภัยกันได้หรือ จริงที่ว่า ผมให้อภัยพวกเขาได้หากมันเป็นเรื่องที่สุดวิสัย แต่มันไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาไม่พยายามรุกกลับ ไม่พยายามเข้าสกัดบอล ผมขอพูดเลยว่านักเตะในทีม 5-6 คนเลยแหละ ที่ไม่สมควรเล่นให้กับ ยูไนเต็ดอีก มันน่าขายหน้ามากๆเลย ไม่ใช่ว่าพวกเขาแพ้ไม่ได้ เกมมีแพ้มีชนะ แต่วิถีที่พวกเขาแพ้มันต้องไม่ใช่แบบนี้ และนี่เป็นภาพสะท้อนของปัญหาภายในทีมเลยนะ แต่ในครึ่งหลังก็ต้องยอมรับว่า ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาสุดยอดมากจริงๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาแกร่งขึ้นมาก มันจริงเป็นเหตุผลที่พวกเขาเป็นแชมป์ยังไงหละ แต่สำหรับ ยูไนเต็ด พวกเขาแพ้ในเกม ดาร์บี้ เช่นนี้ มันน่าอายจริงๆ มันเหมือนผู้ใหญ่ที่สู้กับเด็ก แล้วพวกเขายอมแพ้ให้เด็กหนะ ”
ต่อมาตำนานกองกลางคนดังของ ทัพปีศาจแดง อีกคน พอล สโคลส์ ก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงฟอร์มการแข่งขันที่ย่ำแย่ของ แข้งรุ่นน้อง อย่างหนักมาก ไม่แพ้ รอย คีน ว่า
“ ผมตื่นเต้นมากๆนะที่ใน 20 นาทีแรกพวกเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ครองบอลได้ดี โดยเฉพาะ ปอล ป็อกบา แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดว่าผมจะบอกว่าเขาเป็นทีมที่ดี เขายังคงเป็นทีมที่แย่มากๆทีมหนึ่งเลยหละ พวกคุณสามารถวิจารณ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้เลย ครึ่งหลังพวกเขาแย่มากๆ พวกเขาไม่สู้เลย และดูเหมือนว่านึกไม่ออกว่าจะต้องเล่นกันยังไง ดีเท่าไหร่ที่พวกเขาไม่เสียประตูที่ 5 ที่ 6 ไปอีก และเป็นอีกเกมที่ผู้รักษาประตูทำงานได้ดีกว่านักเตะ พวกเขาบอกว่า เกมรับของพวกเขาดีขึ้นตั้งแต่ โอเล่ ออกไป หลอกตัวเองทั้งนั้นแหละ จริงแล้ว ผู้รักษาประตูต่างหากที่ช่วยพวกเขาไว้ เป็นแบบนี้มานานแล้วหละ ”
ไม่เพียงเท่านี้ แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็คขวาในตำนานของ ทัพปีศาจแดง รุ่นพี่จากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกคน ก็ได้ออกโรงจวก ฟอร์มอันตกต่ำของ แข้งรุ่นน้อง ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์ ว่าพวกเขาขาดความฮึกเฮิม ไม่ไม่พยายามมากพอในการเล่นเกมให้กลับมาอยู่เท้าของพวกเขา โดย เนวิลล์ จวกยับว่า
“ การตอบสนองของนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่โดนนำไปแล้ว 3 ประตู เป็นอะไรที่ทำให้ผมอับอายมาก ผมไม่เคยเห็นอะไรที่น่าอายแบบนี้มาก่อนในเกมไหนเลย พวกคุณคิดดูว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาครองบอลได้ถึง 92 % ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายเชียวนะ พวกเขาเล่นราวกับว่า พวกเขายอมแพ้แล้ว แม้ผมจะเข้าใจดีว่าเกมนี้เป็นเกมที่ยาก ที่พวกเขาต้องมาเจอกับทีมจ่าฝูงที่แข็งแกร่ง แต่การที่พวกเขาเอาแต่เดินไปมาในสนาม ไม่มีมีคำไหนที่ใกล้เคียงกับคำว่า ทำดีพอแล้ว เลยนะ สำหรับผม แพ้ที่สกอร์เท่าไหร่ไม่สำคัญเลย สำคัญแค่ว่า การตอบสนอง การโต้กลับ เมื่อพวกคุณโดนนำไปแล้ว 3 ประตูเป็นเช่นไรต่างหากหละ นี่พวกเขาทำเหมือน โยนผ้าขอยอมแพ้ต่อคู่แข่งเลยทีเดียว “
และนอกจากนี้ พวกเขายังโดนวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายอีกอย่างหนัก ถึงฟอร์มการเล่นที่ไม่แข็งแกร่งและตกต่ำในเกมที่ผ่านมา เพราะหลายฝ่ายมองว่า การร่วงจากอันดับ TOP 4 ในครั้งนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นเปรียบเสมือนว่า พวกเขาได้ปิดฉากการลุ้นอันดับ TOP 4 อีกครั้งแน่นอนแล้ว เพราะฟอร์มการแข่งขันในช่วงหลังมานี้ ทัพของ มิเกล อาร์เตต้า นั้น ฟอร์มดีขั้นสุด ซึ่งจะเท่ากับว่าเหลือรายการที่ให้พวกเขาหวังแชมป์เพียงแค่ ถ้วยหูใหญ่ รายการเดียวแล้วเท่านั้น แต่หลายฝ่ายก็วิเคราะห์อีกว่า จากฟอร์มของ ทัพปีศาจแดง เช่นนี้คงจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากทีมอื่นๆมีฟอร์มที่ร้อนแรงกว่าหลายเท่าตัวเลยทีเดียว ซึ่งก็ตรงตามการคำนวณของ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ก่อนหน้านี้ ที่ได้ทำนายเอาไว้ว่า ทัพปีศาจแดง จะไม่สามารถคว้าอันดับที่ 4 ได้ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก และมีสิทธิ์คว้าแชมป์ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพียง 1 % เท่านั้น