
หากพูดถึงนักเตะตำแหน่งกองกลาง ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง พุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ และเนื้อหอมสุดๆในขณะนี้ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ดีแคลน ไรซ์ นักเตะสัญชาติอังกฤษ วัย 23 ปี สังกัดอยู่ในสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ความเก่งกาจ แข็งแกร่ง และฟอร์มที่กำลังฟิตจัด จนเป็นที่ต้องการของตลาดนักเตะอย่างมาก ทำให้เขาได้ขึ้นแท่นเป็นดั่ง ลูกรัก ของ เดวิด มอยส์ กุนซือผู้นำ ทัพขุนค้อน ถึงขั้นประกาศออกสื่ออย่างหนักแน่นว่า หากใครคิดที่จะดึงตัว ดีแคลน ไรซ์ ไปจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายให้กับสโมสรของเขา 150 ล้านปอนด์ ก่อนจะพูดดับฝันทีมยักษ์ใหญ่ที่พร้อมจ่ายและจ้องจะดึงตัว มิดฟิลด์หน้าหล่อ ไปจากอ้อมอกของเขาว่า “ ถึงใครจะพร้อมจ่ายยังไงก็ตาม แต่ ดีแคลน ไรซ์ ก็ไม่ได้มีไว้ขาย ”
เส้นทางสู่การเป็นนักฟุตบอลของ ดีแคลน ไรซ์
ดีแคลน ไรซ์ (Declan Rice) เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม ในปี 1999 ที่เมือง คิงส์ตัน อัพพอน เทมส์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเขามีบรรพบุรุษอพยพมาจาก ประเทศไอร์แลนด์ ชีวิตในวัยเด็กของเขา เขามีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลอย่างมาก คนรอบข้างเขามักจะบอกว่า ไรซ์ จะมีความสุขทุกครั้ง เมื่อได้สัมผัสกับลูกฟุตบอลและเตะมันออกไป
จากความหลงใหล ชื่นชอบนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ ดีแคลน ไรซ์ ได้เขาสู่วงการลูกหนังตั้งแต่นั้นมา โดยเมื่อเขาได้มีเพื่อนฝูง และได้อยู่ในสังคมที่เกี่ยวเนื่องกับฟุตบอล เขาก็ได้เปิดโลกให้กับตัวเองอย่างมาก และมันทำให้เขาได้ค้นพบว่าเขามีพรสวรรค์เช่นไร และยิ่งทำให้เขาเพิ่มพูนความฝันที่จะก้าวไปสู่การได้เป็น นักฟุตบอลอาชีพ อีกด้วย

ชีวิตของเขาในทีมเยาวชนของ เชลซี
เมื่อ ดีแคลน ไรซ์ ได้ทำตามความฝันของเขา โดยเข้าไปทดสอบฝีเท้าของเขากับ สโมสรชื่อดังของกรุงลอนดอนอย่าง เชลซี ในปี 2006 และในที่สุด เขาก็ได้รับการคัดเลือกให้เข้าไปเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสร เชลซี ซึ่งในขณะนั้น เขามีอายุแค่เพียง 7 ขวบเท่านั้น โดยในปีที่ ไรซ์ ได้เข้าไปเป็นนักเตะในทีมเยาวชนของ ทัพสิงห์บลู เป็นปีเดียวกันกับการเข้ามาเทคโอเวอร์ สโมสรเชลซี ของ โรมัน อับราโมวิช และในยุคนั้นการคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม และ เชลซี ก็เป็นทีมที่ลุ้นแชมป์อีกด้วย
ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในทีมตั้งแต่การเข้ามาของ อบราโมวิช การแข่งขันภายในก็มีสูงตามไปด้วย เนื่องจากนักเตะทุกคนต่างเก่ง และ แข็งแกร่ง และแข่งขันกันทำผลงานให้เป็นที่พึงพอใจ ซึ่ง ดีแคลน ไรซ์ มีปัญหาในเรื่องของฟอร์มที่ไม่คงที่ เขาจึงมุ่งมั่นในการฝึกฝนอย่างหนัก แม้จะไม่เก่งเท่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ แต่เขาก็สามารถค่อยๆขยับรุ่นในอคาเดมีไปจนถึง รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปี (U-14) จนได้จากการพยายามอย่างหนักของเขา
และแน่นอน ยิ่งสูงยิ่งหนาว ในทีมชุด U-14 นี้ มีการแข่งขันกันสูงมากของนักเตะภายในทีม ผลงานของ ไรซ์ ไม่อาจเทียบเท่าเพื่อนร่วมทีมได้ เขาจึงถูกปล่อยตัวออกจาก ทีมเยาวชนของสโมสร เชลซี ในปี 2014 ซึ่งเหตุการณ์นี้ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของ ไรซ์ อย่างมาก จึงทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กหนุ่มที่เป็น โรคซึมเศร้า ชีวิตในช่วงนั้นของเขา เป็นมรสุมที่หนักหนาสาหัสอย่างมาก

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ผู้มอบโอกาสใหม่ให้อีกครั้ง
หลังจากที่เขาโดน สโมสรเชลซี ยกเลิกสัญญา และทำให้เขาต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้า หลังจากนั้นได้ไม่นาน ในปี 2014 เดียวกันนั้นเอง ดีแคลน ไรซ์ ก็ได้รับโอกาสใหม่อีกครั้ง เมื่อทีมเยาวชนอคาเดมีของ สโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้เรียกให้เขาไปทดสอบฝีเท้า และแล้ว ไรซ์ ก็ทำได้ โดยเขาได้รับการตอบรับให้เข้าไปร่วมทีมเยาวชนของสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในที่สุด เมื่อปี 2015 ไม่เพียงเท่านั้น เขายังได้รับการเซ็นสัญญาจากต้นสังกัดใหม่ และให้ได้เข้าสู่ทีมชุด เยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (U-23) ในทันทีอีกด้วย และก็เหมือนดัง ภูเขาไฟรอการปะทุ ฟอร์มของเขาก็ได้ระเบิดออกมาในที่สุด เขาได้ทำผลงานให้กับทีม U-23 ของทัพขุนค้อน ได้อย่างยอดเยี่ยม และโดดเด่นอย่างมาก
จนในปี 2016 จากฟอร์มที่ร้อนแรงนี้ เขาก็ได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของ ทัพขุนค้อน อย่างรวดเร็ว ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอล เดอะ แฮมเมอร์ ผิดหวัง เขาได้ทำผลงานให้กับ ทัพขุนค้อน ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ และฟอร์มอันร้อนแรงที่ได้ระเบิดออกมาสู่สายตาแฟนบอลที่ส่งเสียงเชียร์เขาที่ในสนาม ส่งผลให้เขาสามารถคว้ารางวัล Man of the match ในเกมแรกที่เขาลงแข่งขันในทีมชุดใหญ่ได้อีกด้วย และจึงทำให้เขาได้รับการชื่นชมและยกย่องให้เป็น นักเตะที่แฟนๆรักใคร่ อย่างมาก

จากนั้นในปีถัดไป ในฤดูกาล 2017-18 ดีแคลน ไรซ์ ก็ยังเฉิดฉายพรสวรรค์ที่เขามีในสนามแข่ง จนได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2017-18 ในอันดับที่ 2 แม้จะไม่ได้อันดับที่ 1 ไป แต่ เขาก็สามารถคว้านางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสร มาครองได้อีกหนึ่งรางวัล เมื่อเริ่มฤดูกาลใหม่ เขาก็ได้รับการคัดเลือกให้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แม้จะโดนเปลี่ยนตำแหน่งไปในๆหลายเกม แต่เขาก็สามารถทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดีในทุกครั้ง และด้วยการเล่นอย่างดุดัน ปะทะเก่งแบบไม่กลัวใคร จนทำให้เป็นขวัญและกำลังใจที่ดีของเพื่อนร่วมทีม และในที่สุด เขาก็ได้รับการคัดเลือกให้สวมปลอกแขนเป็น กัปตันทีมแห่งทัพขุนค้อน ไปในที่สุด
เรื่อยมาจนในฤดูกาล 2021-22 ฤดูกาลในปัจจุบัน ฟอร์มของ ดีแคลน ไรซ์ ก็ได้พุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะลดลง จึงทำให้เขาเป็นที่สนอกสนใจของทีมยักษ์ใหญ่หลายๆทีมในลีกอังกฤษ อาทิ สโมสรเชลซี , สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , สโมสรลิเวอร์พูล เป็นต้น และเขาเองก็มีความสนใจที่ย้ายไปเล่นยังทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆด้วยเช่นกัน จนทำให้ เดวิด มอยส์ กุนซือแห่งทัพขุนค้อน ออกมาประกาศผ่านสื่ออย่างหนักแน่นว่า ค่าตัวของ ดีแคลน ไรซ์ ตั้งไว้ที่ 100 ล้านปอนด์ หากทีมใดที่พร้อม มีเงินมากพอและยอมจ่ายให้กับ สโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ถึงจะมีสิทธิ์จะคว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้ และเมื่อทีมดังอื่นๆจากเกาะอังกฤษยังคงตามตื้อ มิดฟิลด์สุดแกร่งขอเขาอย่างไม่ลดละ เขาจึงได้ประกาศผ่านสื่ออีกครั้งว่า ค่าตัวของ ดีแคลน ไรซ์ พุ่งขึ้นไปถึง 150 ล้านปอนด์แล้ว เนื่องจากเขามีฟอร์มที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่คิดจะขาย ไรซ์ ให้กับทีมใด เพราะ เขามีดีมากเกินกว่าจะขายออกไป

ดีแคลน ไรซ์ กับการรับใช้ชาติ
ทีมชาติไอร์แลนด์
แม้ว่า ดีแคลน ไรซ์ จะเกิดและเติบโตในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่ ปู่ ย่า ของเขาได้อพยพมาจาก สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เขาจึงมีสิทธิ์ลงเล่นให้กับ ทีมชาติไอร์แลนด์ ได้ โดยในปี 2015 เขาลงเล่นให้กับ ทีมชาติไอร์แลนด์ ในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และได้ขยับรุ่นไปเรื่อยๆจาก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี , รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี จนในปี 2018 เขาก็สามารถติดทีมชาติชุดใหญ่ของไอร์แลนด์ และลงเล่นให้กับชุดนี้ได้เพียง 3 นัด ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ ทีมชาติอังกฤษ

ทีมชาติอังกฤษ
ในปี 2019 เขาได้รับการคัดเลือกจาก แกเร็ธ เซาท์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ ทัพสิงโตคำราม โดยประเดิมนัดแรกในศึก ฟุตบอลยูโร 2020 กับทีมชาติมอนเตเนโกร และเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 5-1 และ ไรซ์ ก็ได้รับความไว้ใจให้ได้ลงเล่นให้กับ ทีมชาติอังกฤษ แทบจะทุกรายการ ซึ่งล่าสุด เขาได้มีชื่อติดทีมชาติไปแข่งขันในรายการ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ อีกด้วย

ผลงานและเกียรติประวัติของ ดีแคลน ไรซ์
สโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
• รางวัลนักเตะดาวรุ่งแห่งปีของ สโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประจำฤดูกาล 2016–17 และในฤดูกาล 2017-18
• รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ สโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประจำฤดูกาล 2019–20
• รางวัลนักเตะเยาวชนแห่งปี ในปี 2019
• รางวัลนักเตะแห่งปีของการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ในปี 2022
ทีมชาติไอร์แลนด์
• นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ทีมชาติไอร์แลนด์ ในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2017
• นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ทีมชาติไอร์แลนด์ ในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ในปี 2018
• นักเตะเยาวชนแห่งปีของ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ในปี 2018
ทีมชาติอังกฤษ
• รองชนะเลิศอันดับ 2 ในรายการ ยูฟ่า เนชันส์ ลีก ในฤดูกาล 2018–19
