ฟลอเรียน ริชาร์ด เวียร์ตซ์ (Florian Richard Wirtz) หรือ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ นักเตะดาวรุ่ง อนาคตไกล ของ สโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เขาเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2003 ที่ เบราวายเลอร์ ส่วนหนึ่งของเมือง พูลไฮม์ เมืองทางด้านตะวันตกของเมืองโคโลญ รัฐนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลีย ประเทศเยอรมนี เขามีพี่สาว 1 คน ชื่อว่า จูเลียน เวียร์ตซ์ (Juliane Wirtz) ซึ่งภายหลังก็โตมาเป็นนักฟุตบอลใน สโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และนักฟุตบอลเยาวชนของทีมชาติเยอรมัน เช่นเดียวกันกับเขาอีกด้วย
โยอาคิม และ คารีน เวียร์ตซ์ (Joachim and Karin Wirtz) พ่อและแม่ของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ได้ให้การสนับสนุนพรสวรรค์ทางด้านกีฬาฟุตบอล ของ ฟลอเรียน และ จูเลียน อย่างเต็มที่ เนื่องจากกีฬาฟุตบอล คือ ส่วนหนึ่งของชาวเยอรมันแทบจะทุกคนอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ก็คือ โยอาคิม พ่อของเขา คือ ประธานสโมสรฟุตบอล เอสเฟา กรูน-ไวส์ เบราวายเลอร์ (sv grün-weiß brauweiler) สโมสรฟุตบอลท้องถิ่นในเมือง พูลไฮม์ ที่เขาเกิดและอาศัยอยู่อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น ครอบครัวลูกหนัง โดยแท้จริงเลยทีเดียว
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เริ่มต้นเข้าสู่วงการลูกหนังจากสโมสรของพ่อ
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และพี่สาวของเขา เริ่มเข้าสู่การเป็นนักฟุตบอลฝึกหัดใน สโมสรเอสเฟา กรูน-ไวส์ เบราวายเลอร์ ที่พ่อเขาเป็นประธานสโมสรอยู่ ในปี 2008 ในขณะที่เขาอายุได้ 5 ขวบ เขาฝึกซ้อมอยู่ที่นั่นและทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี จากการสนับสนุนของครอบครัว
จนกระทั่งเมื่อเขาอายุ 7 ขวบ ในปี 2010 พ่อและแม่ของเขา ต้องการให้ทั้ง ฟลอเรียน และ จูเลียน ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆที่มากขึ้นกว่าเดิมจากสโมสรอื่น จึงได้เดินทางจาก เมืองเบราวายเลอร์ ไปยัง เมืองฟรานซ์ เครเมอร์ อัลลี เพื่อให้ลูกๆของเขาได้ทดสอบฝีเท้าที่ สโมสรแอร์สเทอ เอฟเซ เคิลน์ (1. FC Köln) และสุดท้ายสองพี่น้อง ตระกูลเวียร์ตซ์ ก็ผ่านการทดสอบ และได้เข้าร่วมเป็นเด็กฝึกที่นั่น ในปี 2010
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ระเบิดฟอร์มเก่งที่ โคโลญ
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ และพี่สาวของเขา ได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกในทีมเยาวชนของ สโมสรแอร์สเทอ เอฟเซ เคิลน์ (1. FC Köln) หรือ สโมสรโคโลญ ในปี 2010 สโมสรใน บุนเดสลีกา ลีก โดยตลอดเวลาที่เขาเป็นเด็กฝึกที่ โคโลญ ด้วยวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่นตั้งใจ รวมไปถึงพรสวรรค์ที่เขามี ทำให้เขามีทักษะและฝีเท้าที่ดี โดยสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมไว้อย่างมากมาย ซึ่งในปี 2014 ในขณะที่เขาอายุ 11 ขวบ เขาสามารถคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศในการแข่งฟุตบอลในร่ม นัดกระชับมิตรมาให้กับ สโมสรโคโลญ ได้ และเป็นถ้วยรางวัลแรกในชีวิตของเขาด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเป็นคนทำประตูให้กับสโมสรได้ถึง 2 ประตูอีกด้วย
ซึ่งฟอร์มของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เป็นที่เลื่องลือในด้านความดุดัน แข็งแกร่ง และเล่นเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม จึงมักจะสร้างผลงานการทำประตูให้กับสโมสรของเขาอยู่เสมอในทุกๆฤดูกาล จนในปี 2019 ฤดูกาล 2018-19 เขาได้ลงทำการแข่งขันให้กับสโมสร ในชุดทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17) และ เวียร์ตซ์ ก็เป็นนักเตะกำลังหลัก ที่สำคัญของทีม จนสามารถคว้าแชมป์ในรายการ เยอรมัน แชมเปี้ยนชิพ 2019 มาครองได้อย่างสำเร็จ โดยการเอาชนะ สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาได้ด้วยสกอร์ 3-2 โดยในฤดูกาลนี้ เวียร์ตซ์ สามารถทำประตูให้กับทีมได้ถึง 17 ประตูด้วยกัน
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ กับการเป็นนักฟุตบอลในสโมสรอาชีพอย่างเต็มตัว
หลังจากที่ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ โชว์ผลงานได้อย่างน่าทึ่ง จนเป็นที่ต้องการของสโมสรดังหลายๆสโมสรในเยอรมัน จนในเดือนมกราคม ปี 2020 เขาได้รับการทาบทามจาก สโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (Bayer Leverkusen) สโมสรดังในบุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของเยอรมัน และเขาก็ได้ย้ายเข้าไปเป็นนักเตะฝึกหัดในทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17) ของ สโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าตัว 180,000 ปอนด์ หรือราวๆ 7.3 ล้านบาท
แต่ด้วยฝีเท้าและผลงานอันยอดเยี่ยมใน 4 นัดแรก ที่เขาทำประตูไปได้ 2 ประตู กับการทำแอสซิสต์ได้อีก 3 ครั้ง ให้กับทีมเยาวชนนั้น ทำให้ ปีเตอร์ บอสซ์ กุนซือห้างขายยาในขณะนั้น ได้ดันเขาสู่ทีมชุดใหญ่ในทันที แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ทำให้การแข่งขันหยุดชะงักไป และเมื่อกลับมาเปิดสนามทำศึก บุนเดสลีกา กันอีกครั้ง ในฤดูกาล 2019-20 ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ก็ได้เลื่อนขั้นให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ เป็นตัวจริงครั้งแรกทันที ในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 ในนัดที่พบกับ สโมสรเอสเฟา แวร์เดอร์เบรเมิน ซึ่ง ทัพห้างขายยา เอาชนะ ทัพนกนางนวล มาได้ด้วยสกอร์ 4-2 ซึ่งนอกจากจะลงสนามเป็นตัวจริงในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกแล้ว เวียร์ตซ์ ยังสามารถสร้างสถิติใหม่ของสโมสรให้เกิดขึ้นอีกด้วย นั่นคือ เป็นนักเตะของ เลเวอร์คูเซ่น ที่อายุน้อยที่สุด ที่ลงทำการแข่งขันในศึก บุนเดสลีกา ด้วยวัยเพียง 17 ปี 16 วัน อีกด้วย
ซึ่งในเดือนมิถุนายน ปี 2020 เวียร์ตซ์ ได้ทำประตูให้กับต้นสังกัดเป็นครั้งแรก ในศึก บุนเดสลีกา ในนัดที่พบกับ สโมสรบาเยิร์น มิวนิค แม้ในนัดนั้นจะพบกับความพ่ายแพ้ก็ตาม แต่ เวียร์ตซ์ ก็ได้สร้างสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นอีกครั้งด้วยการเป็น นักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถทำประตูในศึก บุนเดสลีกา ได้ ด้วยวัย 17 ปี 34 วัน อีกด้วย
ต่อมาในฤดูกาล 2020-21 เวียร์ตซ์ ซึ่งมีอายุ 18 ปี ได้ยึดพื้นที่ตัวจริงใน ทัพห้างขายยา ได้สำเร็จ และหลายคนบอกว่า เขาทำหน้าที่แทน ไค ฮาเวิร์ตซ์ แข้งกองกลางตัวรุกคนเก่งของทีม ที่ย้ายข้ามน้ำข้ามทะเลไปค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก กับ สโมสรเชลซี ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งในฤดูกาลนี้เขาลงเล่นไปทั้งหมด 38 นัด ทำประตูไปได้ 8 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ด้วยกัน
ซึ่งในฤดูกาลปัจจุบัน 2021-22 เวียร์ตซ์ เพิ่งทำลายสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ลงเล่นในศึก บุนเดสลีกา ครบ 50 นัด ไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2021 และในกลางเดือนมีนาคม ปี 2022 ที่ผ่านมา เขาได้ลงเล่นใน บุนเดสลีกา ครบ 60 นัด และทำประตูไปแล้ว 13 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งเขาทำลายสถิติอีกครั้ง ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่สามารถทำประตูใน บุนเดสลีกาลีก ได้ถึงเลข 2 หลักอีกด้วย แต่จากการลงเล่นในนัดนั้น ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก บริเวณเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีก และแพทย์ประจำทีมยืนยันว่า เขาจะต้องได้รับการผ่าตัดและพักยาวเป็นระยะเวลากว่าครึ่งปีเลยทีเดียว
ซึ่งนับได้ว่า ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เป็นดาวรุ่ง ฟอร์มจัดจ้าน ที่กำลังมาแรง และน่าจับตามองเป็นอย่างมาก และหากขาดเขาลงเล่นให้กับทีมในช่วงปลายฤดูกาลเช่นนี้ อนาคตของ ทัพห้างขายยา จะปิดฤดูกาลได้อย่างสวยหรือไม่ คงต้องติดตามต่อไป